๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ หกตุลามหาโหด
6 October 1976 Massacre in Thailand
( For English you can read : https://en.wikipedia.org/wiki/Thammasat_University_massacre
For real footage video in the end of column )
ความนำ
สภาพการณ์ทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ
ในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์
๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
กล่าวได้อย่างสังเขปว่า ในแง่สังคมนั้น พลังมวลชนกลุ่มต่าง ๆ ที่ถูกคุมขังอยู่ในกรอบของการเมืองได้พวยพุ่งออกมาแสดงข้อเรียกร้องต่าง ๆ ปัญหาที่มีการเรียกร้องต่อระบบการเมืองมีทั้งเรื่องความยุติธรรมในด้านสังคมและเศรษฐกิจ การถูกเอารัดเอาเปรียบ การถูกข่มเหงรังแก ฯลฯ
ในแง่เศรษฐกิจนั้น การขึ้นราคาน้ำมันก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั่วไป สินค้าขึ้นราคา และผลพวงจากปัญหาดังกล่าวได้แสดงออกมาในแง่ของการแสดงออกทางการเมือง
ในด้านการเมืองนั้น ความพยายามในการวางรากฐาน ประชาธิปไตยก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีการร่างรัฐธรรมนูญมีการเผยแพร่ประชาธิปไตย การอภิปรายปัญหาบ้านเมือง การรวมตัวของกลุ่มต่าง ๆ เช่น สหภาพเพื่อสิทธิเสรีภาพประชาชน (สสส.) และประชาธิปไตยเพื่อประชาชน เป็นต้น
ความตื่นตัวทางการเมืองและสภาวะพลวัตมีอยู่ทั่วไป คละกันไปกับปัญหาต่าง ๆ ทางสังคมเศรษฐกิจ ซึ่งในแง่หนึ่ง เป็นระยะหัวเลี้ยวหัวต่อที่ค่อนข้างจะสับสนและเสมือนกับจะเป็นพยากรณ์ให้เห็นความยุ่งยากในอนาคต
ในช่วงนี้ทหารและตำรวจต่างก็สงวนบทบาทท่าที คอยเฝ้าดูพัฒนาการต่าง ๆอย่างสงบ แต่ก็เริ่มมีการส่อ ให้เห็นการเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับปัญหาที่กำลังจะตามมา
กลุ่มนิสิตนักศึกษาก็เริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้น มีการแยกตัว ออกเป็นสองกลุ่ม คือศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และสหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย
กลุ่มหลังเป็นกลุ่มที่แตกออกไปจากลุ่มแรก เพราะเริ่มมีความคิดในทางการเมืองต่างกันและบางพวกก็ไปสังกัด กลุ่มจัดตั้งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรของรัฐและมีกิจกรรมที่ถ่วงดุลกลุ่มนิสิตนักศึกษา
ส่วนทางด้านการเมืองรัฐบาลของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็บริหารประเทศด้วยการใช้นโยบายให้ผู้มีรายได้น้อย ขึ้นรถเมล์ฟรีและรักษาพยาบาลฟรี มุ่งให้คนมีงานทำทั่วถึงภายในห้าปี โครงการเงินผัน ๒,๕๐๐ ล้านบาทและการให้กองกำลังทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ภายในประเทศไทยในเวลานั้น ถอนตัวออกจากประเทศไทยภายในเวลาหนึ่งปี
ในส่วนสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านนั้น ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๘ ข่าวการปลดปล่อยอินโดจีนด้วยชัยชนะของคอมมิวนิสต์ได้เขย่าขวัญรัฐบาลและชนชั้นปกครองของไทย
ความกลัวและเกลียดคอมมิวนิสต์ในหมู่คนไทยเป็นไปอย่างแผ่กว้างและลึกซึ้ง รัฐบาลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลจีนเป็นครั้งแรกนับแต่จีนเปลี่ยนแปลงการปกครอง และได้รับการต้อนรับจากนายเติ้งเสี่ยวผิงอย่างดียิ่ง
นายกรัฐมนตรีของไทยได้เข้าพบและสนทนากับประธานเหมาเจ๋อตงนานกว่าหนึ่งชั่วโมง จนนายแพทย์จีนต้องขอยุติการสนทนา
ทางด้านบรรยากาศในเมืองไทยนั้น ฝ่ายอำนาจเก่าได้โฆษณาชวนเชื่อว่า ผู้อื่นที่ไม่ใช่พวกของตนเป็นพวกที่ " ต้องการ " ต่อต้านและล้มล้างสถาบันกษัตริย์ หรืออาจจะเรียกได้ว่า “ ไม่ใช่คนไทย ” ในขณะเดียวกันก็ปรากฏ “ ขบวนการขวาพิฆาตซ้าย ” ผู้นำนักศึกษาชาวนาชาวไร่ และกรรมกรหลายคนถูกลอบสังหารและในช่วงเดือนสิงหาคม ได้เกิดเหตุการณ์ทหารพราน บุกบ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
เดือนมกราคมปี ๒๕๑๙ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ประกาศยุบสภา โดยอ้างว่าถูก ส.ส. กดดันมาก
การเลือกตั้งทั่วไป ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๑๙ ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรง ชั่วเวลาสามเดือนที่หาเสียงเลือกตั้ง มีการฆ่ากันตายถึงกว่า ๓๐ ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก บ่อยครั้งที่การปราศรัยหาเสียงถูกขัดจังหวะ ด้วยระเบิด
พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายถูกโจมตีมากที่สุด หัวคะแนนของพรรคของพรรคฝ่ายก้าวหน้าถูกลอบฆ่าตาย
ในเขตนอกเมืองที่ทำการของพรรคพลังใหม่ซึ่งเป็นพรรคที่ต้องการปฏิรูปถูกวางระเบิด และเหตุการณ์ที่รุนแรง สะเทือนขวัญผู้คนมากเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙เมื่อคนร้ายลอบสังหาร ดร. บุญสนอง บุณโยทยาน
ผลการเลือกตั้งวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๑๙ พลิกความคาดหมาย เพราะ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชผู้ประกาศยุบสภาเพื่อ หวังเพิ่มที่นั่งของพรรคกิจสังคม กลับไม่ได้รับเลือกตั้ง
พรรคที่ได้รับเลือกตั้งมากที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
นักวิชาการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองช่วงนี้ว่า ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งได้แสดงความเป็นอนุรักษ์นิยมตามประเพณีดั้งเดิมและพอใจในความปลอดภัยและ ความเป็นระเบียบร้อยมากกว่าความเปลี่ยนแปลงที่ควบคุมไม่ได้
ทำให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคการเมืองฝ่ายขวา อื่นๆ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ในขณะที่พรรคฝ่ายซ้ายพ่ายแพ้อย่างหมดรูป โดยที่นั่งของพรรคสังคมนิยมสองพรรค และพรรคพลังใหม่ลดลงจาก ๓๗ ที่นั่งเหลือเพียง ๖ ที่นั่ง หรือจากร้อยละ ๑๕ มาเป็น ร้อยละ ๒ ของจำนวนที่นั่ง ทั้งหมดในสภา
ลำดับเหตุการณ์
มิถุนายน ๒๕๑๙
นายสุธรรม แสงประทุม ได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ( ศนท.) บุคคล ผู้นี้ในอีกไม่นานนักได้กลายเป็น ๑ ใน ๑๙ นักโทษการเมืองและได้บันทึกเรื่องราวในขณะนั้นไว้ในหนังสือ " ผมผ่านเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม "
" ทุกอย่างกำลังก้าวไปสู่ความเลวร้าย ทุกขณะ จากการก่อกวนสร้างสถานการณ์ของกลุ่มบุคคลที่ต้องการจะนำ ระบอบเผด็จการมากดหัวประชาชนไทย อีกครั้งหนึ่ง "
๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๙
พระ กิตติ วุฒโฑภิกขุ ให้สัมภาษณ์หนังสือ จตุรัสว่า " การฆ่าพวกซ้ายหรือพวกคอมมิวนิสต์ไม่บาป " โดยให้เหตุผลว่า ใครก็ตามที่ทำลายชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ถือว่าเป็นมาร มิใช่มนุษย์ ดังนั้นการฆ่าคอมมิวนิสต์จึงไม่บาป
๒ กรกฎาคม ๒๕๑๙
กลุ่มกระทิงแดงและสหพันธ์นักศึกษาครูแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่หน้าที่ตึกที่ทำการ ของศูนย์กลางนิสิต ฯกล่าวหาศูนย์กลางนิสิต ฯ เพื่อเตือนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของคอมมิวนิสต์
ในวันเดียวกันที่ท้องสนามหลวง ศูนย์กลางนิสิต ฯ จัดอภิปรายเรื่องปัญหาข้าวสารแพง ระหว่างนั้น กลุ่มกระทิงแดง เข้าก่อกวนด้วยการปาอิฐ หิน และไม้ ขึ้นไปบนเวที นายสุธรรม แสงประทุม พูดบนเวทีว่า การมาชุมนุม ของกรรมการ ศนท. ชุดนี้อาจจะเป็นชุดสุดท้าย แต่เราพร้อมยืนตายคาเวทีเพื่อเป็นการต่อสู้
๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๙
เวลา ๑๗.๔๕ น.
ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจอมพลประภาส จารุเสถียรกลับเข้าเมืองไทยจริง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน กำลังให้ตำรวจสันติบาลสืบหาตัวอยู่
๑๘.๓๐ น.
๑๗ สิงหาคม ๒๕๑๙
๑๖.๐๐ น.
๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๙
๐๑.๐๐ น.
ช่วงเช้าที่บริเวณลานโพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการชุมนุมประท้วงจอมพลประภาส ๑๑.๓๐ น. นักศึกษา คณะนิติศาสตร์ผู้หนึ่ง นำ ญาติวีรชนและผู้ร่วมเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ เข้าแจ้งความที่ สน. ชนะสงคราม ให้ดำเนินการ กับจอมพลประภาสสองข้อหาคือ เป็นผู้บงการฆ่าคนตาย และกระทำผิดต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้โมหจริต
๒๐ – ๒๑ สิงหาคม ๒๕๑๙
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลายเป็นศูนย์รวมการชุมนุมต่อต้านกรณีจอมพลประภาสกลับเข้าประเทสไทย กลุ่มกระทิงแดงและสหพันธ์นักศึกษาครูแห่งประเทศไทยก่อเหตุวุ่นวายโดยขว้างระเบิดพลาสติกเข้าใส่ที่ชุมนุม
๒๒ สิงหาคม ๒๕๑๙
จอมพลประภาสเดินทางออกจากประเทศไทยเวลา ๑๔.๒๓ น. โดยเครื่องบินพิเศษจากท่าอากาศยานกองทัพ อากาศไปยังสถานพำนัก ณ กรุงไทเป การชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงสลายตัว
กันยายน ๒๕๑๙
๑๙ กันยายน ๒๕๑๙
จอมพล ถนอม กิตติขจร บรรพชาเป็นสามเณรที่สิงค์โปร์ แล้วเดินทางเข้าประเทศไทย หลังจากนั้น พล.ต.ต. นิยม กาญจนวัฒน์ ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมือง ได้นำสามเณรถนอม นั่งรถเบนซ์ตรงไปยังวัดบวร ฯ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตลอดทาง
๑๒.๐๐ น.
๑. การเข้ามาในครั้งนี้เป็นแผนการของกลุ่มบุคคลที่ต้องการทำรัฐประหาร
๒. ก่อนเข้ามามีการเตรียมตัวกันอย่างพร้อมพรียง บุคคลในคณะรัฐบาลไปรับถึงสนามบิน และให้บวชได้ในวัดบวร ฯ
๓. จอมพลถนอมใช้ศาสนาเป็นเป็นเครื่องบังหน้า อันทำให้ศาสนาต้องมัวหมอง
ขณะที่ทาง ศนท. รอดูท่าทีของฝ่ายรัฐบาลได้เกิดกระแสโจมตีการเคลื่อนไหวของ ศนท. อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสถานีวิทยุยานเกราะจนกระทั่ง มีการเรียกร้องให้รัฐบาลฆ่าประชาชนสัก ๓ หมื่นคนเพื่อคนจำนวน ๔๓ ล้านคน
๒๐ กันยายน ๒๕๑๙
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เสนอให้ออกกฎหมายพิเศษขับพระถนอม ทหารออกประกาศว่าจะไม่
๒๑ กันยายน ๒๕๑๙
๑๓.๑๐ น.
สถานีวิทยุยานเกราะออกอากาศให้ตำรวจจับกุมนักศึกษาที่ออกติดโปสเตอร์ประท้วงกรณีพระถนอม
๒๔ กันยายน ๒๕๑๙
๐๑.๐๐ น.
นิสิตจุฬาฯ ถูกชายฉกรรจ์ประมาณ ๒๐ คนรุมทำร้ายขณะออกไปติดโปสเตอร์ต่อต้านพระถนอมที่อยู่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าหอพักจุฬา ฯเป็นผลให้นายเสถียร สุนทรจำเนียร ถูกตีที่ศีรษะและถูกแทงที่ลำตัวจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนนิสิตอีกสองคนถูกทำร้ายและรูดทรัพย์
๐๘.๐๐ น.
กิตติวุฒโฑภิกขุและนายวัฒนา เขียววิมล ( กลุ่มนวพล ) ไปเยี่ยมพระถนอมที่วัดบวรฯ เวลา ๒๒.๓๐ น. อ้างว่ามาสนทนาธรรม และว่าการเข้ามาบวชของพระถนอมนั้นบริสุทธิ์
๒๗ กันยายน ๒๕๑๙
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมว่าทั้งสองถูกทำร้าย รัดคอให้ตายเสียก่อน แล้วจึงนำศพมาแขวนคอ
๒๙ กันยายน ๒๕๑๙
๑๕.๐๐ น.
๓๐ กันยายน ๒๕๑๙
ตัวแทนกลุ่มต่อต้าน ศนท. อันประกอบไปด้วย
ร่วมกันแถลงว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ศนท. สภาแรงงานแห่งประเทศไทย และนักการเมืองฝ่ายซ้าย ได้ถือเอากรณีพระถนอมเป็นการก่อความไม่สงบขึ้นในประเทศถึงขึ้นทำลายวัดบวรนิเวศ ฯและล้มล้างรัฐบาล ทางกลุ่มจึงมีมติว่าจะร่วมกันป้องกันรักษาวัดบวร ฯ ทุกวิถีทาง และหากมีการล้มล้างรัฐบาล ทางกลุ่มจะวางตัวเป็นกลาง
นายสมศักดิ์ ขวัญมงคล หัวหน้ากลุ่มกระทิงแดงกล่าวว่า หากมีการเดินขบวนมายังวัดบวร ฯ ทางกลุ่มกระทิงแดง จะอารักขาวัดบวร ฯมิใช่อารักขาพระถนอม และขอให้ ศนท. ยุติการเคลื่อนไหวเสีย และให้อยู่ในขอบเขต หากจะชุมนุม ให้อยู่ในสนามหลวงหรือธรรมศาสตร์ อย่าเดินขบวนเป็นอันขาด
นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการ ศนท. กล่าวว่า ศูนย์กลางนิสิต ฯจะกระทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเผด็จการ เพื่อคนไทยทั้งประเทศ และการที่กลุ่มกระทิงแดงจะต่อต้านขัดขวางศูนย์ ฯ นั้น ถือได้ว่ากลุ่มกระทิงแดงเป็นเครื่องมือของเผด็จการคอยรับใช้และปกป้องเผด็จการ
ตุลาคม ๒๕๑๙ อำนาจเผด็จการเอาคืน
๒ ตุลาคม ๒๕๑๙
นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการ ศนท.พร้อมตัวแทนของกลุ่มต่าง ๆ จำนวน ๑๐ คน เข้าพบนายก ฯ เพื่อขอคำตอบเกี่ยวกับพระถนอม
ภายหลังการเข้าพบ นายสุธรรมแถลงว่า นายก ฯไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า จะให้พระถนอมออกนอกประเทศเมื่อไร
ที่นครปฐม แนวร่วมประชาชนนครปฐมออกแถลงการณ์โจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบิดเบือนคดีการสังหาร สองช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมทั้ง ๆ ที่หลักฐานจากพยานหลายปากยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำบุคคลทั้งสอง ไปซ้อมที่สถานีตำรวจภูธรนครปฐม โดยมีนายตำรวจระดับสารวัตรร่วมด้วย จึงขอให้รัฐบาลเร่งจับกุมฆาตกร มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หยุดสอบประท้วง
๓ ตุลาคม ๒๕๑๙
หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ คอลัมน์ “ ไต้ฝุ่น ” เขียนโดยผู้ใช้นามแฝงว่า “ ไต้ฝุ่น ” มีข้อความว่า “ หากเมืองไทยจะมีนายกรัฐมนตรีอีก ทำนายทักกันได้ว่าจะไม่ใช่คนในสกุลปราโมชอีกแล้ว อาจจะเป็น ๑ ใน ๓ ของคนวัยไม่เกิน ๕๒ เล็งกันไว้จาก “ สภาปฏิรูป ” ซึ่งเป็นคำที่คณะผู้ก่อการยึดอำนาจจาก ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ในเย็นวันที่ ๖ ตุลา ๑๙ ใช้แทนคำว่า “ คณะปฏิวัติ ”
ทำให้หลายฝ่ายเพ่งเล็งมากว่า เหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ ไม่ใช่อุบัติเหตุทางการเมืองไทย แต่เป็นเหตุการณ์ที่ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อที่คณะปฏิรูป ฯ จะได้เข้ายึดอำนาจควบคุมความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
๑๑.๔๐ น.
๔ ตุลาคม ๒๕๑๙
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วงเช้ามีการสอบวิชาภาษาไทยของนักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ทุกคณะ แต่นักศึกษา ส่วนใหญ่ไม่ยอมเข้าห้องสอบกลับรวมตัวชุมนุมกันที่ลานโพประมาณ ๕๐๐ คน มีการอภิปรายกรณีพระถนอม และการฆาตกรรมช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐม
๑๔.๐๐ น.
๑๔.๔๕ น.
๑๕.๓๐ น.
๑๗.๓๐ น.
๑๙.๓๐ น.
การเคลื่อนย้ายนี้ อดีตผู้นำนักศึกษาผู้หนึ่งกล่าวให้สัมภาษณ์ใน สมุดภาพเดือนตุลา ว่า
“…กระทิงแดงนี่เขามีปืน มีระเบิดมือ แต่เขาไม่ใช้บ่อย เขาใช้ระเบิดพลาสติกหรือระเบิดขวดเราชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ นี่เป็นชัยภูมิที่เหมาะที่สุดเพราะมันกันพวกระเบิดขวดทั้งหลาย ตึกบังหมดทุกทาง ขว้างให้ตายก็ไม่ถึง แต่เป็นชัยภูมิ ที่แย่ที่สุดสำหรับการปราบด้วยอาวุธสงครามเพราะคุณขังตัวเอง แต่ในเมื่อคุณไม่มีเซ้นส์ ว่าจะเกิดการปราบด้วย อาวุธสงคราม คุณถึงเลือกใช้ธรรมศาสตร์ เพราะคุณคิดว่าระเบิดขวด ระเบิดพลาสติก หรือปืนพกมันเข้าไม่ถึง …”
๒๑.๐๐ น.
๕ ตุลาคม ๒๕๑๙
๐๖.๐๐ น.
๐๙.๓๐ น.
๑๐.๐๐ น.
๑๖.๔๐ น.
๑๗.๓๐ น.
๑๙.๐๐ น.
๒๐.๓๕ น.
- นำธงชาติคลุมตัว ตัวละครที่แสดงเป็นคนตายที่ข้างถนนหน้ารัฐสภา
- ใช้สื่อมวลชนที่มีแนวโน้มเอียงเช่นเดียวกันกับผู้ก่อความไม่สงบ
- ลงบทความหรือเขียนข่าวไปในทำนองที่จะทำให้เกิดช่องว่างในบวรพุทธสาสนา
- นักศึกษาผู้หนึ่งทำเป็นผู้ถูกแขวนคอพยายามแต่งใบหน้าให้เหมือนองค์รัชทายาท
- ชมรมวิทยุเสรีย้ำว่า กรณีพระถนอมและผู้ที่แขวนคอเป้นเพียงข้ออ้างในการชุมนุมก่อความสงบเท่านั้น แต่ความจริงต้องการทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เป็นครั้งแรกที่สถานีวิทยุยานเกราะและชมรมวิทยุเสรี เรียกกลุ่มนักศึกษาประชาชนที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ว่า “ ผู้ก่อความไม่สงบ ” ซึ่งยังมีการแถลงการณ์กล่าวต่อไปอีกว่า “ ชมรมวิทยุเสรีคัดค้านการกระทำดังกล่าวในทุก ๆ กรณีขอให้รัฐบาลจัดการกับผู้ทรยศเหล่านี้โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการนองเลือดอันอาจจะเกิดขึ้นหากให้ประชาชนชุมนุมกันแล้วอาจมีการนองเลือดขึ้นก็ได้ ”
และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่สถานีวิทยุยานเกราะและชมรมวิทยุเสรีกล่าวคำว่า “ อาจมีการนองเลือดเกิดขึ้นก็ได้ ”
๒๑.๐๐ น.
๒๑.๓๐ น.
๒๑.๔๐ น.
๒๔.๐๐ น.
รุ่งอรุณแห่งการสังหาร
๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ วันฆ่านกพิราบ
๐๑.๐๐ น.
๐๑.๓๐ น.
๐๑.๔๐ น.
หน่วยรักษาความปลอดภัยของ ศนท.จับกระทิงแดงได้คนหนึ่งขณะบุกเผาโปสเตอร์เมื่อนำตัวไปสอบสวนจึงได้รู้ว่า กระทิงแดงทุกจุดรอบธรรมศาสตร์ได้เตรียมปฏิบัติการเต็มที่ โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง และในเวลานั้นมีกระทิงแดงกว่า ๑๐๐ คนแทรกตัวปะปนอยู่ในหมู่นักศึกษาประชาชนแล้ว เพื่อเตรียมประสาน ทั้งข้างนอกและข้างในในมหาวิทยาลัย
๐๒.๐๐ น.
กรมตำรวจ ภายหลังการประชุม พล.ต.อ. ศรีสุข มหินทรเทพ อธิบดีกรมตำรวจแถลงผลการพิจารณาภาพ นักศึกษาแสดงละครแขวนคอว่า จากการนำฟิล์มของหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ มาวิเคราะห์ การตรวจสอบได้ผล ไม่แน่นอน จึงติดต่อนำภาพจากหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นมาวิเคราะห์ด้วย ต่อมาอธิบดีกรมตำรวจ มีคำสั่งด่วนถึงเจ้าหน้าที่ ตำรวจในกรุงเทพมหานครให้เตรียมพร้อมในที่ตั้ง เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
๐๓.๐๐ น.
๐๕.๐๐ น.
๐๕.๓๐ น.
นายสุธรรม แสงประทุม ติดต่อขอเข้าพบนายก ฯ ผ่านนายเจริญ คันธวงศ์ เพื่อให้นายก ฯสั่งการให้บุคคล ที่อยู่ภายนอกมหาวิทยาลัยหยุดยิงเข้าไปในชุมนุม ขณะนั้นมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ถูกล้อมไว้หมดแล้ว
๐๕.๔๐ น.
๐๖.๐๐ น.
สุธรรมบันทึกเหตุการณ์ช่วงก่อนออกไปพบนายกฯว่า “ …ปรากฏเวทีการอภิปรายเวลานั้นโดนกระสุนพรุนไปหมด ต้องอพยพลี้ภัยมาพูดกันใต้ถุนเวที ผมกอดอำลาเพื่อน ๆทั้งภาพปรากฏต่อหน้าผมไม่อาจจะให้ผมตัดสินใจอย่างนั้นได้ ภาพนั้นคือเพื่อนักศึกษาชายคนหนึ่งถูกกระสุนปืนนอนจมกองเลือดอยู่กลางสนามมีเพื่อนักศึกษาหญิง เข้าใจว่าเป็น พยาบาลเพื่อมวลชน วิ่งเข้าไปประคองจะนำตัวไปตึกบัญชีขณะที่ประคองปีกไปนั้นเพื่อนักศึกษาหญิงคนนั้นก็ถูก กระสุนปืนตายทันทีต่อหน้าต่อตาผมและเพื่อนคนที่สามผู้วิ่งถลันเข้าไปหวังจะช่วยก็ถูกปืนยิงตายอีกคนหนึ่ง ทั้งสามคนนอนตายกลางสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มันเป็นภาพประทับแน่นในความทรงจำของผมกระทั่งทุกวันนี้… ”
๐๖.๓๐ น .
๐๗.๐๐ น.
๐๗.๓๐–๐๘.๐๐ น.
๐๗.๔๕ น.
เพื่อให้เห็นภาพของเหตุการณ์ช่วงนี้ชัดเจนขึ้น ขอนำบันทึกของคุณแสงดาว ที่เขียนไว้ในหนังสืองานศพของ อนุวัตร อ่างแก้ว มาเสนอดังนี้ “ ขณะที่คนที่หลบอยู่บริเวณตึกบัญชีถูกระดมยิงใส่จนทนไม่ไหว และพยายามหาทางขึ้นบนตึก โดยอาศัยกำแพงตึกเป็นที่กำบัง บ้างก็พยายามหลบเข้าห้องต่าง ๆ ของชั้นล่างซึ่งมีน้อยเกินไปประตูทุกห้อง แม้นแต่ชั้นล่างก็ปิดสนิท ต้องเสี่ยงกระโดดเข้ากระแทกบานประตูหรือไม่ก็ต้องทุบกระจกแล้วโดดเข้าไป กระสุนเข้าร่าง บางคนที่กำลังเปิดประตู เขาวิ่งชนจวนจะสำเร็จอยู่แล้วแต่ไม่ทัน… เขาถูกยิงตายตรงนั้น เขากล้าหาญเอาชีวิตของตน เข้าแลกเพื่อความปลอดภัยของเพื่อน ๆ…มีคนพุ่งเข้าชนกระทั่งประตูพัง คนที่เหลือรีบวิ่งหลบกระสุนเข้าไป ยังมีอีกหลายร้อยคนวิ่งหลบกระสุนขึ้นไปหลบในห้องต่าง ๆ ทั้ง ๔ ชั้นเต็มไปหมด ได้แต่หมอบ อุดหู รอรับกระสุน ที่ระดมยิงเข้ามา…”
๐๗.๕๐ น.
๐๘.๑๐ น.
๐๘.๑๘ น.
๐๘.๒๕ น.
นักศึกษาประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีออกไปทางหน้าประตูมหาวิทยาลัย ในจำนวนนี้มากกว่า ๒๐ คนถูกรุมตี รุมกระทืบ บางคนที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสามหัสแต่ยังไม่สิ้นใจถูกลากออกไปแขวนคอ และถูกผู้คนแสดงท่าทางเยาะเย้ยศพต่าง ๆนานา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนลากเอาศพนักศึกษาที่นอนตายเกลื่อนกลาดข้างหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ออกมาเผากลางถนนราชดำเนินตรงข้ามกับพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยเอายางรถยนต์ทับแล้วราดน้ำมันเบนซิน จุดไฟเผา
๑๐.๓๐ น.
๑๑.๐๐ น.
๑๑.๓๕ น.
๑๘.๐๐ น.
กวาดล้างครั้งใหญ่
หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินนำโดย พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ในเย็นวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ แล้ว คณะปฏิรูปฯได้มีคำสั่งยุบสภา ยกเลิกพรรคการเมือง ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ ห้ามประชาชนออกนอกจากบ้านระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ - ๐๕.๐๐ น. และสั่งปิดหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ หลังจากนั้นเพียงสองวัน ก็มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ นำนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เข้าเผ้า ฯเพื่อประกาศแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง และจับนักศึกษาประชาชนจำนวน ๓,๐๙๔ คน ไปฝากขังที่โรงเรียน ตำรวจนครบาล บางเขน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างละเอียดคืนวันที่ ๗ ต.ค.
การกวาดล้างครั้งใหญ่ไม่เพียงเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น ทว่าได้ลุกลามขยายตัวออกไปทั่วประเทศ หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมถูกเก็บจากแผง ผู้ที่มีความคิดขัดแย้งกับรัฐบาลก็ถูกข้อหาเป็นภัยสังคมและคอมมิวนิสต์ สภาพสังคมในช่วงดังกล่าวได้ผลักดันให้นักศึกษาปัญญาชนจำนวนมากที่มีความคิดขัดแย้งกับรัฐบาลต้องหนีเข้าป่าเป็น แนวร่วมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
- วันล้อมปราบประชาชน
- วันฆ่านกพิราบ
ชื่อเรียก
หกตุลามหาโหด
วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
ชนวนของเหตุการณ์
จอมพล ถนอม กิตติขจร เดินทางกลับมาประเทศไทย หลังจากที่หลบหนีออกนอกประเทศเมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๖
เหตุการณ์
ก่อนหน้าเหตุการณ์ ๖ ตุลา มีความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคชาติไทย ส่วนขบวนการนักศึกษาและประชาธิปไตยก็กำลังเบ่งบานและเข้มข้น โดยมีขบวนการมวลชนฝ่ายขวา ใช้ความรุนแรงก่อกวนและสังหารผู้นำนักศึกษาและกรรมกรชาวนา
จอมพลถนอมบวชเณรเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๙ โดยอ้างว่าจะเข้ามาดูใจบิดา ( ก่อนหน้านี้จอมพลประภาสเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม แต่ถูกต่อต้านจนต้องเดินทางออกนอกประเทศไปอีก )
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การประท้วงขับไล่จอมพลถนอมเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๑๙ ขณะเดียวกันได้มีเหตุการณ์ฆ่าแขวนคอกรรมกรที่ร่วมขับไล่จอมพลถนอมที่นครปฐม นักศึกษาได้จัดแสดง ละครสะท้อนเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม
เวลาเช้าของวันที่ ๕ ตุลาคม หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ และ ดาวสยาม ได้ตีพิมพ์ภาพละครแขวนคอ ของนักศึกษา โดยระบุว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ( เนื่องจากบุคคลผู้ถูกแขวนคอในภาพ มีหน้าละม้ายองค์รัชทายาท ) มีการชุมนุมกลุ่มพลังฝ่ายขวาทั่วกรุงเทพ ฯ และ พ.อ.อุทาร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา แห่งชมรมวิทยุเสรี ได้กระจายเสียงปลุกเร้ากลุ่มพลังและนัดหมายเวลาที่จะเคลื่อนกำลัง
เช้าวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ กำลังตำรวจและประชาชนในสังกัดกลุ่มพลังฝ่ายขวา ( เช่น กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ) ปิดล้อมและบุกเข้าสลายม็อบในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยใช้วิธีการอันโหดเหี้ยม ผิดมนุษย์ ภาพข่าวการแขวนคอนักศึกษากับต้นมะขามที่สนามหลวง ตอกอก เผาทั้งเป็น และการระดมยิง นักศึกษาที่ไม่มีอาวุธนอกจากปืนพกของหน่วยรักษาความปลอดภัยไม่กี่กระบอกได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก นักศึกษาและผู้นำกรรมการจำนวนมากหลบหนีการปราบปราม “ เข้าป่า ” เพื่อรวมตัวกับพรรค คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ผลจากเหตุการณ์
ประมาณว่ามีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน นักศึกษา ๓,๐๘๔ คน ถูกจับกุม ผู้นำนักศึกษา ๑๙ คนถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร
รัฐบาลของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ถูกปฏิวัติและแทนที่ด้วยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน แต่งตั้งรัฐบาล ที่มี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี
ความสำคัญของเหตุการณ์
คณะปฏิรูป ฯ นำประเทศไทยกลับเข้าสู่ระบอบเผด็จการทหารอีกครั้ง ความโหดเหี้ยมของเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อด้านความรู้สึกของผู้คนในสังคม ด้านเศรษฐกิจและด้านการเมืองไทย ทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก
*******************************************
Real footage video
Video 1 Upload by ธเนศ คืนไทยให้เป็นธรรม ( Thaned kenthaihaipentum )
Channel : ธเนศ คืนไทยให้เป็นธรรม ( Thaned kenthaihaipentum )
*****************************************************************
Reference : อ้างอิง
- รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย / นิตยสารสารคดี
- http://www.Geocities.com/Thaifreeman
- https://en.wikipedia.org/wiki/Thammasat_University_massacre
- Google
- Youtube
๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๙
พระ กิตติ วุฒโฑภิกขุ ให้สัมภาษณ์หนังสือ จตุรัสว่า " การฆ่าพวกซ้ายหรือพวกคอมมิวนิสต์ไม่บาป " โดยให้เหตุผลว่า ใครก็ตามที่ทำลายชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ถือว่าเป็นมาร มิใช่มนุษย์ ดังนั้นการฆ่าคอมมิวนิสต์จึงไม่บาป
แต่เป็นการฆ่ามาร ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่ของคนไทยที่ต้องทำการฆ่านั้น หากเป็นการฆ่าเพื่อประเทศชาติแล้ว แม้จะเป็นบาปแต่ก็ได้บุญในแง่ของการปกป้องประเทศจากศัตรูมากกว่าจะได้บาป พระกิตติ วุฒโฑภิกขุ เปรียบเทียบการฆ่านี้ว่า เหมือนการฆ่าปลาถวายพระ การฆ่าปลาเป็นบาป แต่การนำปลานั้นมาดักบาตรถวายพระ ถือว่าเป็นบุญมากกว่า
๒ กรกฎาคม ๒๕๑๙
กลุ่มกระทิงแดงและสหพันธ์นักศึกษาครูแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่หน้าที่ตึกที่ทำการ ของศูนย์กลางนิสิต ฯกล่าวหาศูนย์กลางนิสิต ฯ เพื่อเตือนว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือของคอมมิวนิสต์
ในวันเดียวกันที่ท้องสนามหลวง ศูนย์กลางนิสิต ฯ จัดอภิปรายเรื่องปัญหาข้าวสารแพง ระหว่างนั้น กลุ่มกระทิงแดง เข้าก่อกวนด้วยการปาอิฐ หิน และไม้ ขึ้นไปบนเวที นายสุธรรม แสงประทุม พูดบนเวทีว่า การมาชุมนุม ของกรรมการ ศนท. ชุดนี้อาจจะเป็นชุดสุดท้าย แต่เราพร้อมยืนตายคาเวทีเพื่อเป็นการต่อสู้
๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๙
เวลา ๑๗.๔๕ น.
มีรายงานข่าวจากกองตรวจคนเข้าเมืองว่า มีบุคคลชื่อในหนังสือเดินทางว่า พี . จารุเสถียร เดินทางเข้าประเทศโดยสายการบินไชนาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CI 819 จากไทเป หลังจากนั้นมีรถเก๋งคันหนึ่งเข้าไปรับ โดยไม่ได้ผ่านขั้นตอนของกองตรวจคนเข้าเมืองภายหลังทราบว่าเป็นจอมพล ประภาส จารุเสถียร
ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจอมพลประภาส จารุเสถียรกลับเข้าเมืองไทยจริง แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน กำลังให้ตำรวจสันติบาลสืบหาตัวอยู่
๑๘.๓๐ น.
พ.ท. อุทาร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ออกรายการวิทยุยานเกราะ เรียกร้องให้จอมพลประภาส มอบตัวเพื่อสุ้คดีในศาลและเตือนให้ประชาชนระวังการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายซ้าย รวมทั้งรัฐบาลต้องการทำตาม กฎหมายอย่างยุติธรรม จะปล่อยให้นักศึกษาประชาชนใช้วิธีศาลประชาชนไม่ได้เด็ดขาด
๑๗ สิงหาคม ๒๕๑๙
๑๖.๐๐ น.
ศนท. ร่วมกับแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ จัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเพื่อ ขับไล่จอมพล ประภาสในตอนค่ำ ตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าพบนายก ฯ เพื่อสอบถามท่าทีของรัฐบาลในการจัดการปัญหา
๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๙
๐๑.๐๐ น.
รัฐบาลออกแถลงการณ์ใจความว่า ตามที่จอมพลประภาสได้ลักลอบเข้าประเทศไทย รัฐบาลได้ส่ง ผู้แทนคือ พล.อ. ทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา และ พล.อ.อ. ทวี จุลละทรัพย์ ไปเจรจากับจอมพลประภาส จอมพลประภาสกล่าวว่า ได้เข้ามาเมืองไทยเพื่อรักษาโรคต้อหินและโรคหัวใจโต
โดยก่อนหน้านี้พยายามรักษาที่กรุงไทเป แล้วแต่อาการทรุดลงเรื่อย ๆ จึงขอกลับมารักษาที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีความประสงค์ที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหา ในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ด้วย
ช่วงเช้าที่บริเวณลานโพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการชุมนุมประท้วงจอมพลประภาส ๑๑.๓๐ น. นักศึกษา คณะนิติศาสตร์ผู้หนึ่ง นำ ญาติวีรชนและผู้ร่วมเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ เข้าแจ้งความที่ สน. ชนะสงคราม ให้ดำเนินการ กับจอมพลประภาสสองข้อหาคือ เป็นผู้บงการฆ่าคนตาย และกระทำผิดต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้โมหจริต
๒๐ – ๒๑ สิงหาคม ๒๕๑๙
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลายเป็นศูนย์รวมการชุมนุมต่อต้านกรณีจอมพลประภาสกลับเข้าประเทสไทย กลุ่มกระทิงแดงและสหพันธ์นักศึกษาครูแห่งประเทศไทยก่อเหตุวุ่นวายโดยขว้างระเบิดพลาสติกเข้าใส่ที่ชุมนุม
๒๒ สิงหาคม ๒๕๑๙
จอมพลประภาสเดินทางออกจากประเทศไทยเวลา ๑๔.๒๓ น. โดยเครื่องบินพิเศษจากท่าอากาศยานกองทัพ อากาศไปยังสถานพำนัก ณ กรุงไทเป การชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงสลายตัว
กันยายน ๒๕๑๙
๑๙ กันยายน ๒๕๑๙
จอมพล ถนอม กิตติขจร บรรพชาเป็นสามเณรที่สิงค์โปร์ แล้วเดินทางเข้าประเทศไทย หลังจากนั้น พล.ต.ต. นิยม กาญจนวัฒน์ ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมือง ได้นำสามเณรถนอม นั่งรถเบนซ์ตรงไปยังวัดบวร ฯ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตลอดทาง
พล.ต.ต. นิยมกล่าวว่าการเดินทางเข้ามาของสามเณร ถนอมในครั้งนี้ ได้แจ้งให้รัฐบาลทราบทุกระยะ ส่วนสามเณรถนอมจะพำนักอยู่ ในประเทศไทยนานเท่าใดยังไม่ทราบ แน่นอน
๑๒.๐๐ น.
สามเณรถนอมเสร็จสิ้นพิธีอุปสมบท ได้รับฉายา สุกิตติขจโรภิกขุ ที่ตึกจักรพงษ์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการ ศนท. จัดประชุมกลุ่มพลังต่าง ๆ ๑๖๕ กลุ่ม
ได้ผลวิเคราะห์ว่า กรณีจอมพลถนอม เดินทางเข้าประเทศไทยเป็นเกมที่ละเอียดซับซ้อน เพราะใช้ศาสนาประจำชาติเป็นเครื่องบังหน้า ดังนั้น ศนท. จึงต้องสุขุมและให้โอกาสแก่รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจแก้ปัญหาก่อน ในที่ประชุมมีการตั้งข้อสังเกตกันมาก คือ
๑. การเข้ามาในครั้งนี้เป็นแผนการของกลุ่มบุคคลที่ต้องการทำรัฐประหาร
๒. ก่อนเข้ามามีการเตรียมตัวกันอย่างพร้อมพรียง บุคคลในคณะรัฐบาลไปรับถึงสนามบิน และให้บวชได้ในวัดบวร ฯ
๓. จอมพลถนอมใช้ศาสนาเป็นเป็นเครื่องบังหน้า อันทำให้ศาสนาต้องมัวหมอง
ขณะที่ทาง ศนท. รอดูท่าทีของฝ่ายรัฐบาลได้เกิดกระแสโจมตีการเคลื่อนไหวของ ศนท. อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสถานีวิทยุยานเกราะจนกระทั่ง มีการเรียกร้องให้รัฐบาลฆ่าประชาชนสัก ๓ หมื่นคนเพื่อคนจำนวน ๔๓ ล้านคน
๒๐ กันยายน ๒๕๑๙
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เสนอให้ออกกฎหมายพิเศษขับพระถนอม ทหารออกประกาศว่าจะไม่
เข้าไปยุ่งและ ไม่มีการปฏิวัติ พระกิตติวุฒโฑกล่าวว่านักศึกษาต้องการขับไล่พระมีแต่คอมมิวนิสต์เท่านั้นที่ไล่พระ สถานีวิทยุยานเกราะ และหนังสือพิมพ์ ดาวสยาม ออกข่าวโจมตี ศนท. และไม่ให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมกับศนท.
๒๑ กันยายน ๒๕๑๙
๑๓.๑๐ น.
ม.ร.ว เสนีย์ ปราโมช ประกาศลาออกกลางสภา เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองได้ และรัฐบาลไม่อาจเสนอกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราที่ ๔๗ ซึ่งบัญญัติว่าจะเนรเทศบุคคลที่มีสัญชาติไทยไม่ได้
สถานีวิทยุยานเกราะออกอากาศให้ตำรวจจับกุมนักศึกษาที่ออกติดโปสเตอร์ประท้วงกรณีพระถนอม
๒๔ กันยายน ๒๕๑๙
๐๑.๐๐ น.
บุคคลหนึ่งประมาณ ๒๐ คน นั่งรถจิ๊ปและรถสองแถวมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้าน ท่าพระจันทร์ ทำลายป้ายที่ปิดประกาศขับไล่พระถนอม
นิสิตจุฬาฯ ถูกชายฉกรรจ์ประมาณ ๒๐ คนรุมทำร้ายขณะออกไปติดโปสเตอร์ต่อต้านพระถนอมที่อยู่บริเวณป้ายรถเมล์หน้าหอพักจุฬา ฯเป็นผลให้นายเสถียร สุนทรจำเนียร ถูกตีที่ศีรษะและถูกแทงที่ลำตัวจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนนิสิตอีกสองคนถูกทำร้ายและรูดทรัพย์
๐๘.๐๐ น.
ร.ต.ท. วัชรา คีรีรัตน์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรนครปฐมได้รับแจ้งว่า พบศพชาสองคนถูกแขวนคอ ที่ประตูทางเข้าที่ดินจัดสรรบริเวณบ้านหมู่ ๒ ต. พระประโทน อ. เมือง จ. นครปฐม
หลังจากชันสูตรพลิกศพ แล้วพบว่าทั้งสอง คือ นายชุมพร ทุมไมย และนายวิชัย เกษศรีพงษา อดีตนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำงานอยู่ที่การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค เขตนครปฐม
เป็นสมาชิกแนวร่วมประชาชนนครปฐม สภาพศพมีรอยมัดที่มือ ที่คอมีรอยมัดแขวนด้วย เชือกไนลอน แพทย์ชันสูตรพบว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่าแปดชั่วโมง ผลการสืบสวนพบว่า ก่อนตายบุคคลทั้งสองกำลังติดโปสเตอร์ประท้วงต่อต้านพระถนอม
แต่ตำรวจบิดเบือนคดีว่าเป็นเพราะสาเหตุผิดใจกับที่ทำงาน ( ในวันที่ ๖ ต.ค. ตำรวจห้าคนถูกจับในข้อหาสมทบ ฆ่าแขวนคอช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมแต่ต่อมาก็ถูกปล่อยตัวไปอย่างเงียบ ๆ )
๒๖ กันยายน ๒๕๑๙
กิตติวุฒโฑภิกขุและนายวัฒนา เขียววิมล ( กลุ่มนวพล ) ไปเยี่ยมพระถนอมที่วัดบวรฯ เวลา ๒๒.๓๐ น. อ้างว่ามาสนทนาธรรม และว่าการเข้ามาบวชของพระถนอมนั้นบริสุทธิ์
๒๗ กันยายน ๒๕๑๙
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมว่าทั้งสองถูกทำร้าย รัดคอให้ตายเสียก่อน แล้วจึงนำศพมาแขวนคอ
๒๙ กันยายน ๒๕๑๙
๑๕.๐๐ น.
ศนท. และกลุ่มพลังต่าง ๆ จัดชุมนุมที่ท้องสนามหลวงอย่างสงบตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ มีประชาชนนับหมื่นคนเข้าร่วมโดยเรียกร้องให้จัดการให้พระถนอมเดินทางออกนอกประเทศ และจับกุมฆาตรกร สังหารสองช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมโดยด่วน
ขณะดำเนินการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายบดินทร์ เอี่ยมศิลา สมาชิกกลุ่มกระทิงแดง ได้เชิงสะพานปิ่นเกล้า พบระเบิด ที.เอ็น.ที ที่ร้ายแรงขนาดทำลายตึกใหญ่ได้ จึงคุมตัวไว้ ดำเนินคดี
ศนท. ส่งคนไปเจรจากับนายก ฯ แต่เลขานายก ฯ ไม่ให้เข้าพบ
เวลาสามทุ่มเศษ นายสุธรรมและคณะ จึงกลับมาที่สนามหลวงเพื่อบอกกับที่ชุมนุมว่า ผิดหวังมาก และว่าจะสู้ต่อไป ศนท. จะให้เวลารัฐบาลตัดสินใจ ถึงเที่ยงวันเสาร์ที่ ๒ ตุลาคม ถ้ารับบาลไม่ตัดสินใจแก้ปัญหาก็เคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดพร้อมกัน
ที่ชุมนุมสลายตัวเมื่อเวลา ๒๑.๔๕ น.
กลุ่มกระทิงแดงและลูกเสือชาวบ้านจำนวนกนึ่งอ้างตัวเข้าอารักขาพระถนอม ที่วัดบวร ฯ ที่สงขลามีการชุมนุมต่อต้านพระถนอมส่วนที่หาดใหญ่มีผู้นำงูพิษมาปล่อยกลางที่ชุมนุมและยิงปืนใส่ที่ ชุมนุมก่อนสลายตัว
๓๐ กันยายน ๒๕๑๙
ตัวแทนกลุ่มต่อต้าน ศนท. อันประกอบไปด้วย
- ขบวนการปฏิรูปแห่งชาติ
- สหพันธ์นักศึกษาครูแห่งประเทศไทย
- ชมรมอาชีวะอิสระ
- สหพันธ์ครูอาชีวะ
- กลุ่มกรรมกรเสรี
- กลุ่มค้างคาวไทย
- กลุ่มกล้วยไม้ไทย
- กลุ่มวิหคสายฟ้า ( ๑๙ )
- กลุ่มเพชรไทย
- กลุ่มพิทักษ์ไทย
- กลุ่มสหภาพแรงงานเอกชน
- สภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยและองค์การประชาชนแห่งประเทศไทย
นายสมศักดิ์ ขวัญมงคล หัวหน้ากลุ่มกระทิงแดงกล่าวว่า หากมีการเดินขบวนมายังวัดบวร ฯ ทางกลุ่มกระทิงแดง จะอารักขาวัดบวร ฯมิใช่อารักขาพระถนอม และขอให้ ศนท. ยุติการเคลื่อนไหวเสีย และให้อยู่ในขอบเขต หากจะชุมนุม ให้อยู่ในสนามหลวงหรือธรรมศาสตร์ อย่าเดินขบวนเป็นอันขาด
นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการ ศนท. กล่าวว่า ศูนย์กลางนิสิต ฯจะกระทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเผด็จการ เพื่อคนไทยทั้งประเทศ และการที่กลุ่มกระทิงแดงจะต่อต้านขัดขวางศูนย์ ฯ นั้น ถือได้ว่ากลุ่มกระทิงแดงเป็นเครื่องมือของเผด็จการคอยรับใช้และปกป้องเผด็จการ
ตุลาคม ๒๕๑๙ อำนาจเผด็จการเอาคืน
๒ ตุลาคม ๒๕๑๙
นายสุธรรม แสงประทุม เลขาธิการ ศนท.พร้อมตัวแทนของกลุ่มต่าง ๆ จำนวน ๑๐ คน เข้าพบนายก ฯ เพื่อขอคำตอบเกี่ยวกับพระถนอม
ภายหลังการเข้าพบ นายสุธรรมแถลงว่า นายก ฯไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า จะให้พระถนอมออกนอกประเทศเมื่อไร
ดังนั้นกลุ่มพลังต่าง ๆจะเคลื่อนไหวต่อไป โดยจะขยายวงการเคลื่อนไหวออกไป อย่างกว้างขวางและจะเรียกชุมนุมประชาชนที่ท้องสนามหลวงในวันที่ ๔ ต.ค. นี้
ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนประมาณ ๔๐๐ คนเดินทางไปให้กำลังใจญาติวีรชน ๑๔ ตุลา ๑๖ ที่อดอาหารประท้วงพระถนอม
ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชนประมาณ ๔๐๐ คนเดินทางไปให้กำลังใจญาติวีรชน ๑๔ ตุลา ๑๖ ที่อดอาหารประท้วงพระถนอม
ปรากฏมีกลุ่มผู้ต่อต้านประมาณ ๒๐ คน ใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีแล้วขับรถผ่านไป ส่วนผู้มาให้กำลังใจยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๑๖ แล้วก็สลายตัว
ที่เชียงใหม่ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หยุดเรียนและเดินขบวนไปชุมนุมที่สนามท่าแพ และออกแถลงการณ์ให้ รัฐบาลแก้ไขกรณีพระถนอมโดยเร่งด่วน
ที่เชียงใหม่ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หยุดเรียนและเดินขบวนไปชุมนุมที่สนามท่าแพ และออกแถลงการณ์ให้ รัฐบาลแก้ไขกรณีพระถนอมโดยเร่งด่วน
ที่นครปฐม แนวร่วมประชาชนนครปฐมออกแถลงการณ์โจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบิดเบือนคดีการสังหาร สองช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมทั้ง ๆ ที่หลักฐานจากพยานหลายปากยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำบุคคลทั้งสอง ไปซ้อมที่สถานีตำรวจภูธรนครปฐม โดยมีนายตำรวจระดับสารวัตรร่วมด้วย จึงขอให้รัฐบาลเร่งจับกุมฆาตกร มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หยุดสอบประท้วง
๓ ตุลาคม ๒๕๑๙
ฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประกาศยืนยันให้นักศึกษาเข้าสอบไล่ภาคเรียนที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๑๙ หากผู้ใดไม่เข้าสอบจะถือว่าขาดสอบ
หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ คอลัมน์ “ ไต้ฝุ่น ” เขียนโดยผู้ใช้นามแฝงว่า “ ไต้ฝุ่น ” มีข้อความว่า “ หากเมืองไทยจะมีนายกรัฐมนตรีอีก ทำนายทักกันได้ว่าจะไม่ใช่คนในสกุลปราโมชอีกแล้ว อาจจะเป็น ๑ ใน ๓ ของคนวัยไม่เกิน ๕๒ เล็งกันไว้จาก “ สภาปฏิรูป ” ซึ่งเป็นคำที่คณะผู้ก่อการยึดอำนาจจาก ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ในเย็นวันที่ ๖ ตุลา ๑๙ ใช้แทนคำว่า “ คณะปฏิวัติ ”
ทำให้หลายฝ่ายเพ่งเล็งมากว่า เหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ ไม่ใช่อุบัติเหตุทางการเมืองไทย แต่เป็นเหตุการณ์ที่ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อที่คณะปฏิรูป ฯ จะได้เข้ายึดอำนาจควบคุมความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
เกี่ยวกับข้อเพ่งเล็งนี้ นายชวน หลีกภัย เคยนำไปปราศรัยว่า
“…พี่น้องครับ ผมอยากทบทวนถ้อยคำให้ท่านได้ฟังกันอีกครั้งหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ ๓ ตุลาคม ซึ่งนักเขียนจะเขียนกันได้ก็ไม่เกินประมาณวันที่ ๒ แสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปนั้นได้มีการเตรียมกันมาแล้ว และข่าวนี้ได้ รั่วไหลมาสู่หนังสือพิมพ์ นักหนังสือพิมพ์บางคนถึงได้เขียนคำว่าสภาปฏิรูป และมีการคาดหมายว่าคนที่จะมาเป็น นายกฯนั้นเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา
“…พี่น้องครับ ผมอยากทบทวนถ้อยคำให้ท่านได้ฟังกันอีกครั้งหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ ๓ ตุลาคม ซึ่งนักเขียนจะเขียนกันได้ก็ไม่เกินประมาณวันที่ ๒ แสดงให้เห็นว่า การปฏิรูปนั้นได้มีการเตรียมกันมาแล้ว และข่าวนี้ได้ รั่วไหลมาสู่หนังสือพิมพ์ นักหนังสือพิมพ์บางคนถึงได้เขียนคำว่าสภาปฏิรูป และมีการคาดหมายว่าคนที่จะมาเป็น นายกฯนั้นเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา
แต่เขาไม่ได้พูดถึงอาจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร เขาพูดถึงอาจารย์ประภาศน์ อวยชัย นี่หมายความว่า
อย่างไร หมายความว่าเหตุการณ์ในวันที่ ๖ ตุลาคมนั้น สภาปฏิรูปได้เตรียมการที่จะปฏิรูปแล้ว ได้มีการรวมกลุ่มกัน แล้ว และความลับอันนี้ก็ได้รั่วไหลมาสู่ปากหูของหนังสือพิมพ์ จึงได้มีการเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ”
อย่างไร หมายความว่าเหตุการณ์ในวันที่ ๖ ตุลาคมนั้น สภาปฏิรูปได้เตรียมการที่จะปฏิรูปแล้ว ได้มีการรวมกลุ่มกัน แล้ว และความลับอันนี้ก็ได้รั่วไหลมาสู่ปากหูของหนังสือพิมพ์ จึงได้มีการเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ”
๑๑.๔๐ น.
ญาติวีรชนที่อดข้าวประท้วงรัฐบาลกรณีพรถนอมตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ได้ย้ายสถานที่ประท้วง จากหน้าทำเนียบรัฐบาลเข้าไปอยู่ในลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวก และถูกก่อกวนจากกลุ่มต่าง ๆ
๔ ตุลาคม ๒๕๑๙
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วงเช้ามีการสอบวิชาภาษาไทยของนักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ทุกคณะ แต่นักศึกษา ส่วนใหญ่ไม่ยอมเข้าห้องสอบกลับรวมตัวชุมนุมกันที่ลานโพประมาณ ๕๐๐ คน มีการอภิปรายกรณีพระถนอม และการฆาตกรรมช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐม
ช่วงเที่ยงชุมนุมนาฏศิลป์และการละครแสดงละครสะท้อนเหตุการณ์สังหาร ช่างไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ผู้แสดงเป็นผู้ถูกแขวนคอคือ นายอภินันท์ บัวหภักดี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ ๒ และ นายวิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่ ๔
๑๔.๐๐ น.
ดร. ป๋วย อึ๊งภาภรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาห้ามนักศึกษามิให้ชุมนุมกัน เพราะเป็นอุปสรรคต่อการสอบไล่ของนักศึกษา ดร. ป๋วยกล่าวว่า " ห้ามการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเจรจากันดี ๆ ไม่รู้เรื่องก็จะขอให้ตำรวจมาจัดการ เพราะการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้ขออนุญาติ "
๑๔.๔๕ น.
การชุมนุมที่ลานโพธิ์ยุติลงชั่วคราว นักศึกษาทั้งหมดเข้าไปประชุมในห้อง เอ.ที. คณะเศรษฐศาสตร์ แล้วได้มติว่าให้งดสอบ
๑๕.๓๐ น.
ฝูงชนชุมนุมประท้วงพระถนอมที่สนามหลวง มีประชาชนเข้าร่วมหลายหมื่นคน ตัวแทนของ ศนท. ขึ้นกล่าวโจมตีว่ารัฐบาลอ่อนแอและสมยอมกับพระถนอม ส่วนเรื่องแขวนคอที่นครปฐม ทั้งที่รู้ว่าใครคือฆาตกร ก็ไม่สามารถจับตัวมาลงโทษได้ แสดงให้เห็นว่ากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
๑๗.๓๐ น.
นายสมศักดิ์ มาลาดี จากกลุ่มกระทิงแดง พร้อมด้วยนักเรียนอาชีวศึกษากลุ่มประชาชนรักชาติประมาณ ๕๐ คน พูดโจมตี ศนท. ผ่านเครื่องขยายเสียง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวออกไป ( หลัง ๖ ต.ค. นายสมศักดิ์ไปออก รายการที่สถานีวิทยุยานเกราะ )
๑๙.๓๐ น.
นายสุธรรม แสงประทุมประกาศเคลื่อนย้ายคนจากสนามหลวงเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาได้บันทึกไว้หนังสือในหนังสือ " ผมผ่านเหตุการณ์ ๖ ตุลาคมมาได้อย่างไร " ว่า “…เราจึงย้ายเข้าไปในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด สามารถดำเนินการรักษาความปลอดภัยได้ง่ายกว่า เราย้ายเข้าไปอย่างสงบ ที่จริงแล้วเราไม่ได้ ทำอะไรไปโดยพลการ เราไม่ได้ตั้งกองกำลังเอาไว้ตอบโต้หรือรุกรานใคร แต่เรามีอาสาสมัครของเรากลุ่มหนึ่งเข้า ทำงานด้านรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและผู้รักความเป็นธรรม ที่มาชุมนุมข้ามคืนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างมีขั้นตอนและมีการประชุมชี้แจงอย่างรอบด้าน เน้นหนักการป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น ไม่มีปืนผาหน้าไม้ที่จะสู้รบกับใครเลย จะมีก็คงปืนพกไม่กี่กระบอกที่นักศึกษาบางคนมีติดตัวและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมาย…”
การเคลื่อนย้ายนี้ อดีตผู้นำนักศึกษาผู้หนึ่งกล่าวให้สัมภาษณ์ใน สมุดภาพเดือนตุลา ว่า
“…กระทิงแดงนี่เขามีปืน มีระเบิดมือ แต่เขาไม่ใช้บ่อย เขาใช้ระเบิดพลาสติกหรือระเบิดขวดเราชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ นี่เป็นชัยภูมิที่เหมาะที่สุดเพราะมันกันพวกระเบิดขวดทั้งหลาย ตึกบังหมดทุกทาง ขว้างให้ตายก็ไม่ถึง แต่เป็นชัยภูมิ ที่แย่ที่สุดสำหรับการปราบด้วยอาวุธสงครามเพราะคุณขังตัวเอง แต่ในเมื่อคุณไม่มีเซ้นส์ ว่าจะเกิดการปราบด้วย อาวุธสงคราม คุณถึงเลือกใช้ธรรมศาสตร์ เพราะคุณคิดว่าระเบิดขวด ระเบิดพลาสติก หรือปืนพกมันเข้าไม่ถึง …”
๒๐.๐๐ น.
นายสุธรรม แสงประทุมเลขาธิการ ศนท. และตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปพบ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายก ฯเพื่อสอบถามว่าจะนิมนต์พระถนอมออกจากประเทศไทยเมื่อใด และจะจับฆาตกรช่างไฟฟ้าที่นครปฐมได้หรือไม่
๒๑.๐๐ น.
ดร. ป๋วย อึ๊งภาภรณ์ ออกแถลงการณ์สั่งปิดมหาวิทยาลัย โดยความเห็นชอบของนายกสภา มธ. ( ดร. ประกอบ หุตะสิงห์ ) ที่เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา นักศึกษารวมตัวกันชุมนุมต่อต้านพระถนอม
๕ ตุลาคม ๒๕๑๙
๐๖.๐๐ น.
กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันตักบาตรที่บริเวณลานโพธิ์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เริ่มเคลื่อนขบวนเข้าสู่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกสถาบันการศึกษาประกาศงดสอบ
หนังสือพิมพ์ ดาวสยาม และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ตีพิมพ์ภาพการแสดงละครที่ลานโพธิ์ โดยกล่าวหาว่า เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
หนังสือพิมพ์ ดาวสยาม และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ตีพิมพ์ภาพการแสดงละครที่ลานโพธิ์ โดยกล่าวหาว่า เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
๐๙.๓๐ น.
ที่ประชุมสหภาพแรงงาน ๔๓ แห่ง มีมติจะเข้าพบ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมชนายก ฯ เพื่อยื่นข้อเสนอให้ พระถนอมออก นอกประเทศ มิเช่นนั้นสหภาพแรงงานจะนัดหยุดงาน ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๑๙ เป็นต้นไป
๑๐.๐๐ น.
สถานีวิทยุยานเกราะเปิดรายการพิเศษ พ.ท. อุทาร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวเน้นเป็นระยะว่าการชุมนุมที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ใช่เป็นเรื่องการต่อต้านพระถนอมแล้ว แต่เป็นเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
กลุ่มผู้ต่อต้าน ศนท. ประชุมกันและมีมติว่า จะมีการชุมนุมต่อต้าน ศนท. ในเวลา ๐๙.๐๐ น. ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของ ศนท. พร้อมทั้งอ้างว่าการแสดงละครแขวนคอ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นการเหยียบย่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพ จึงจำเป็นต้องหาทางขัดขวาง และจะเรียกชุมนุม ลูกเสือชาวบ้านกรุงเทพ ฯ และลูกเสือชาวบ้านที่อยู่ในการควบคุมของตำรวจตระเวนชายแดนมาร่วมกันตอบโต้ซึ่งอาจต้องใช้มาตราการรุนแรงด้วย
กลุ่มผู้ต่อต้าน ศนท. ประชุมกันและมีมติว่า จะมีการชุมนุมต่อต้าน ศนท. ในเวลา ๐๙.๐๐ น. ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของ ศนท. พร้อมทั้งอ้างว่าการแสดงละครแขวนคอ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นการเหยียบย่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเคารพ จึงจำเป็นต้องหาทางขัดขวาง และจะเรียกชุมนุม ลูกเสือชาวบ้านกรุงเทพ ฯ และลูกเสือชาวบ้านที่อยู่ในการควบคุมของตำรวจตระเวนชายแดนมาร่วมกันตอบโต้ซึ่งอาจต้องใช้มาตราการรุนแรงด้วย
ตอนเย็นมีใบปลิวนัดชุมนุมลูกเสือชาวบ้านและผู้รักชาติให้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และให้เวลา ศนท. สลายการชุมนุมถึงบ่ายสองโมงของวันที่ ๖ ตุลาคม และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
๑๖.๓๐ น.
ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญานต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
๑๖.๔๐ น.
นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงจำนวน ๒๕ คันรถ เดินทางจากหัวหมากเข้าสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุม ต่อต้านพระถนอมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๑๗.๓๐ น.
พ.ท. อุทาร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ออกประกาศให้คณะกรรมการชมรมวิทยุเสรี และ ผู้ร่วมก่อตั้งไปร่วม ประชุมที่สถานีวิทยุยานเกราะเป็นการด่วน
๑๙.๐๐ น.
ประธานรุ่นลูกเสือชาวบ้านในเขตกรุงเทพ ฯ ประชุมที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยมี พล.ต.ต. เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน และอาคม มกรานนท์ เป็นผู้กล่าวในประชุมว่า จะต่อต้าน ศนท. และผู้ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์
๒๐.๓๕ น.
ชมรมวิทยุเสรีออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อการไปในทางที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- นำธงชาติคลุมตัว ตัวละครที่แสดงเป็นคนตายที่ข้างถนนหน้ารัฐสภา
- ใช้สื่อมวลชนที่มีแนวโน้มเอียงเช่นเดียวกันกับผู้ก่อความไม่สงบ
- ลงบทความหรือเขียนข่าวไปในทำนองที่จะทำให้เกิดช่องว่างในบวรพุทธสาสนา
- นักศึกษาผู้หนึ่งทำเป็นผู้ถูกแขวนคอพยายามแต่งใบหน้าให้เหมือนองค์รัชทายาท
- ชมรมวิทยุเสรีย้ำว่า กรณีพระถนอมและผู้ที่แขวนคอเป้นเพียงข้ออ้างในการชุมนุมก่อความสงบเท่านั้น แต่ความจริงต้องการทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เป็นครั้งแรกที่สถานีวิทยุยานเกราะและชมรมวิทยุเสรี เรียกกลุ่มนักศึกษาประชาชนที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ว่า “ ผู้ก่อความไม่สงบ ” ซึ่งยังมีการแถลงการณ์กล่าวต่อไปอีกว่า “ ชมรมวิทยุเสรีคัดค้านการกระทำดังกล่าวในทุก ๆ กรณีขอให้รัฐบาลจัดการกับผู้ทรยศเหล่านี้โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการนองเลือดอันอาจจะเกิดขึ้นหากให้ประชาชนชุมนุมกันแล้วอาจมีการนองเลือดขึ้นก็ได้ ”
และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่สถานีวิทยุยานเกราะและชมรมวิทยุเสรีกล่าวคำว่า “ อาจมีการนองเลือดเกิดขึ้นก็ได้ ”
นางยงเยาว์ สุวรรณสมบูรณ์ สมาชิกชมรมแม่บ้าน เข้าแจ้งความกับนายร้อยเวร สนชนะสงครามว่า ได้เห็นภาพ หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ ประจำวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๑๙ เป็นภาพชายคนหนึ่งถูกแขวนคอ เมื่ออ่านใต้ภาพก็ทราบว่า เป็นการแสดงของศูนย์กลางนิสิตฯ ชายคนนั้นมีลักษณะเหมือนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงขอให้ตำรวจดำเนินการจับกุมมาสอบสวนต่อไป
๒๑.๐๐ น.
พล.ต.ต. เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน สั่งให้ประธานลูกเสือชาวบ้านแจ้งแก่ลูกเสือชาวบ้านที่ชุมนุมกันอยู่ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าว่า ให้ฟังสถานีวิทยุเสรีก่อนการเคลื่อนไหว
๒๑.๓๐ น.
นายประยูร อัครบวร รองเลขาธิการฝ่ายการเมือง ศนท. แถลงข่าวที่ตึกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ (อมธ.) พร้อมนำนายอภินันท์ บัวหภักดี และนายวิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ซึ่งแสดงเป็นผู้ถูกแขวนคอ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ
และกล่าวว่าการแสดงละครดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นความทารุณโหดร้ายอันเนื่องจาก การฆ่าแขวนคอที่นครปฐม โดยมีการแต่งหน้าให้เหมือนสภาพศพ สาเหตุที่เลือกบุคคลทั้งสอง มาแสดงเพราะมี น้ำหนักเบา ไม่ทำให้กิ่งไม้หักง่าย นายประยูรกล่าวด้วยว่า “ ทางนักศึกษาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสถานีวิทยุ ยานเกราะ หนังสือพิมพ์ ดาวสยาม จึงให้ร้ายป้ายสีบิดเบือนให้เป็นอย่างอื่นโดยดึงเอาสถาบันที่เคารพมาเกี่ยวข้อง … "
๒๑.๔๐ น.
รัฐบาลออกแถลงการณ์ให้กรมตำรวจดำเนินการสืบสวนกรณีการแสดงละคร ที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ในลักษณะเป็นการหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์รัชทายาท
๒๔.๐๐ น.
ที่กรมตำรวจ มีการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย
มีเสียงปืนดังขึ้นสองสามนัดนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โฆษกเวทีสั่งให้ทุกคนหมอบลง
มีเสียงปืนดังขึ้นสองสามนัดนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โฆษกเวทีสั่งให้ทุกคนหมอบลง
รุ่งอรุณแห่งการสังหาร
๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ วันฆ่านกพิราบ
๐๑.๐๐ น.
ฝ่ายข่าวของ ศนท. รายงานว่า มีกลุ่มอันธพาลกวนเมืองติดอาวุธอยู่รอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คนเหล่านี้อยู่ในสภาพมึนเมา
๐๑.๓๐ น.
คนที่สนามหลวงเริ่มมากขึ้น มีผู้ปาก้อนหิน ไม้เข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และพยายามเผา ป้อมยามแต่ดับไว้ได้ หลังจากนั้นมีการเผารถจักรยานหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๐๑.๔๐ น.
กลุ่มคนประมาณ ๑๐๐ คนเผาโปสเตอร์ที่ติดอยู่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้านสนามหลวงบริเวณป้อมยามแต่ดับไว้ได้ หลังจากนั้นได้มีการเผารถจักรยานหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้านสนามหลวง ป้อมยามถูกเผา ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์มิได้ห้ามปราม
หน่วยรักษาความปลอดภัยของ ศนท.จับกระทิงแดงได้คนหนึ่งขณะบุกเผาโปสเตอร์เมื่อนำตัวไปสอบสวนจึงได้รู้ว่า กระทิงแดงทุกจุดรอบธรรมศาสตร์ได้เตรียมปฏิบัติการเต็มที่ โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง และในเวลานั้นมีกระทิงแดงกว่า ๑๐๐ คนแทรกตัวปะปนอยู่ในหมู่นักศึกษาประชาชนแล้ว เพื่อเตรียมประสาน ทั้งข้างนอกและข้างในในมหาวิทยาลัย
๐๒.๐๐ น.
กลุ่มนวพลในนามศูนย์ประสานงานประชาชนแถลงว่า ขอให้รัฐบาลจับกุมกรรมการศูนย์กลางนิสิต ฯ ภายใน ๗๒ ชั่วโมง ให้สอบสวนพฤติกรรมของบุคคลที่ให้การสนับสนุนศูนย์กลางนิสิต ฯ ซึ่งนวพลพร้อมที่จะเสนอรายชื่อ ให้ภายใน ๒๔ ชั่วโมง หากรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ นวพลจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดเพื่อป้องกันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
กรมตำรวจ ภายหลังการประชุม พล.ต.อ. ศรีสุข มหินทรเทพ อธิบดีกรมตำรวจแถลงผลการพิจารณาภาพ นักศึกษาแสดงละครแขวนคอว่า จากการนำฟิล์มของหนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ มาวิเคราะห์ การตรวจสอบได้ผล ไม่แน่นอน จึงติดต่อนำภาพจากหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นมาวิเคราะห์ด้วย ต่อมาอธิบดีกรมตำรวจ มีคำสั่งด่วนถึงเจ้าหน้าที่ ตำรวจในกรุงเทพมหานครให้เตรียมพร้อมในที่ตั้ง เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
๐๓.๐๐ น.
สถานีวิทยุยานเกราะยังคงคงออกรายการ “ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ” ตลอดทั้งคืน ส่วนภายในธรรมศาสตร์ยังมีการอภิปรายและแสดงดนตรีต่อไปหลังจากมีกลุ่มบุคคลพยายามบุก เข้าไปในมหาวิทยาลัยและมีเสียงปืนดังขึ้นด้วย
เจ้าหน้าที่ของศูนย์กลางนิสิต ฯขึ้นอภิปรายบนเวที ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ใช้อาวุธ
เจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจลยกกำลังไม่กั้นทางออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด่านสนามหลวง
เจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจลยกกำลังไม่กั้นทางออกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด่านสนามหลวง
๐๔.๐๐ น.
ศนท. พยายามติดต่อกับนายกรัฐมนตรี
๐๕.๐๐ น.
ศนท. กลุ่มคนยืนออกอยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พยายามจะปีนเข้าไปในมหาวิทยาลัย มีการยิงตอบโต้กันด้วยปืนพกประปราย
๐๕.๓๐ น.
มีระเบิด เอ็ม. ๗๙ ยิงจากภายนอกมาตกลงกลางสนามบอล ทำให้นักศึกษาประชาชนตาย ๔ คน บาดเจ็บ ๑๓ คน ห่างกันไม่ถึงอึดใจ ระเบิด เอ็ม. ๗๙ ลูกที่ ๒ ก็ตามเข้ามาแต่ไม่ระเบิด
นายสุธรรม แสงประทุม ติดต่อขอเข้าพบนายก ฯ ผ่านนายเจริญ คันธวงศ์ เพื่อให้นายก ฯสั่งการให้บุคคล ที่อยู่ภายนอกมหาวิทยาลัยหยุดยิงเข้าไปในชุมนุม ขณะนั้นมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ถูกล้อมไว้หมดแล้ว
๐๕.๔๐ น.
โฆษกเวทีประกาศให้ผู้ชุมนุมทยอยออกจากสนามบอลไป หาที่กำบังบนตึกคณะบัญชีและตึก คณะวารสาร ฯ เริ่มมีเสียงปืนมาจากทางด้านฝั่งพิพิธภัณฑ์ และการยิงกระสุนปืนไร้แรงสะท้อนเข้ามา
๐๖.๐๐ น.
นายสุธรรม แสงประทุมขึ้นเวทีชี้แจงกับผู้ชุมนุมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะออกไปพบกับ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายก ฯเพื่อขอร้องให้นายก ฯ ใช้อำนาจสั่งระงับการก่อการร้ายโดยบุคคลทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขณะกำลังชี้แจงมีกระสุนปืนจากจุดต่าง ๆ พุ่งตรงไปยังเวที นำให้เขาต้องนอน หมอบไปพลางพูดชี้แจงพลาง
สุธรรมบันทึกเหตุการณ์ช่วงก่อนออกไปพบนายกฯว่า “ …ปรากฏเวทีการอภิปรายเวลานั้นโดนกระสุนพรุนไปหมด ต้องอพยพลี้ภัยมาพูดกันใต้ถุนเวที ผมกอดอำลาเพื่อน ๆทั้งภาพปรากฏต่อหน้าผมไม่อาจจะให้ผมตัดสินใจอย่างนั้นได้ ภาพนั้นคือเพื่อนักศึกษาชายคนหนึ่งถูกกระสุนปืนนอนจมกองเลือดอยู่กลางสนามมีเพื่อนักศึกษาหญิง เข้าใจว่าเป็น พยาบาลเพื่อมวลชน วิ่งเข้าไปประคองจะนำตัวไปตึกบัญชีขณะที่ประคองปีกไปนั้นเพื่อนักศึกษาหญิงคนนั้นก็ถูก กระสุนปืนตายทันทีต่อหน้าต่อตาผมและเพื่อนคนที่สามผู้วิ่งถลันเข้าไปหวังจะช่วยก็ถูกปืนยิงตายอีกคนหนึ่ง ทั้งสามคนนอนตายกลางสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มันเป็นภาพประทับแน่นในความทรงจำของผมกระทั่งทุกวันนี้… ”
ประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้านสนามหลวงถูกพัง
๐๖.๓๐ น .
นายธงชัย วินิจจะกุล ผู้คุมเวทีประกาศว่า “ พี่ ๆ ตำรวจครับ กรุณาหยุดพวกเราเถิดครับ เราชุมนุม อย่างสงบ สันติไม่มีอาวุธ ตัวแทนของเรากำลังเจรจากับรัฐบาลอยู่ อย่าให้เสียเลือดเนื้อมากว่านี้เลย ขอความกรุณาหยุดยิงเถิดครับ ”
๐๗.๐๐ น.
กลุ่มคนที่อยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้าชนประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้านสนามหลวง เมื่อประตูพังทหารตำรวจตระเวนชายแดน ลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง และกลุ่มอันธพาล ต่างทะลักเข้าไปในมหาวิทยาลัย
ตำรวจหลายสิบคนขึ้นรถผ่านประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปข้างในแล้วต่างกรูลงจากรถ ใช้อาวุธหนักอย่างปืนกลระดมยิงเข้าใส่
นายประยูร อัครบวร เข้าไปเจรจากับ พ.ต.อ. ประยูร โกมารกุล ณ นคร เพื่อขอให้ผู้หญิงและเด็กออกจากมหาวิยาลัย แต่ไม่ได้รับการยินยอม
นายประยูร อัครบวร เข้าไปเจรจากับ พ.ต.อ. ประยูร โกมารกุล ณ นคร เพื่อขอให้ผู้หญิงและเด็กออกจากมหาวิยาลัย แต่ไม่ได้รับการยินยอม
ช่วงนั้นผู้ชุมนุมพยายามวิ่งหนีหาทางออก ตำรวจด้านทานไม่ไหวผู้ชุมนุมจึงทะลัก ออกไปทางประตูท่าพระจันทร์ ผู้ชุมนุมที่เป็นหญิงและเด็กถูกส่งออกจาก มหาวิทยาลัยอย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา เมื่อตำรวจมีคำสั่งให้ กวาดจับผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมจึงถูกบังคับให้นอนคว่ำอยู่ที่พื้นถนน มหาราชข้างวัดมหาธาตุ
๐๗.๓๐–๐๘.๐๐ น.
ตำรวจรุกคืบเข้ามาทางด้านข้าง สนามฟุตบอลหน้าตึกคณะนิติศาสตร์ ในระยะแรกเห็นหมอบ ๆ คลาน ๆ เข้ามาอย่างช้ามาก และสาดกระสุนใส่ตึก อมธ. ตึกคณะวารสาร ฯ ตึกคณะบัญชีเป็นพัก ๆ
ฝ่ายนักศึกษาที่มีหน้าที่ดูแลตึกเห็นสถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายก็สละตึกหนีไป ส่วนตำรวจหลังจากหมอบคลานได้ไม่เท่าไร เมื่อไม่มีใครยิงตอบโต้จึงเปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นเดินราวสามสี่ก้าว นั่งแล้วยิงอีก
๐๗.๔๕ น.
นักศึกษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์วิ่งหนีกระสุนปืนออกจากมหาวิยาลัย และถูกกลุ่มต่อต้าน ที่อยู่ภายนอกรุมประชาทัณฑ์
เพื่อให้เห็นภาพของเหตุการณ์ช่วงนี้ชัดเจนขึ้น ขอนำบันทึกของคุณแสงดาว ที่เขียนไว้ในหนังสืองานศพของ อนุวัตร อ่างแก้ว มาเสนอดังนี้ “ ขณะที่คนที่หลบอยู่บริเวณตึกบัญชีถูกระดมยิงใส่จนทนไม่ไหว และพยายามหาทางขึ้นบนตึก โดยอาศัยกำแพงตึกเป็นที่กำบัง บ้างก็พยายามหลบเข้าห้องต่าง ๆ ของชั้นล่างซึ่งมีน้อยเกินไปประตูทุกห้อง แม้นแต่ชั้นล่างก็ปิดสนิท ต้องเสี่ยงกระโดดเข้ากระแทกบานประตูหรือไม่ก็ต้องทุบกระจกแล้วโดดเข้าไป กระสุนเข้าร่าง บางคนที่กำลังเปิดประตู เขาวิ่งชนจวนจะสำเร็จอยู่แล้วแต่ไม่ทัน… เขาถูกยิงตายตรงนั้น เขากล้าหาญเอาชีวิตของตน เข้าแลกเพื่อความปลอดภัยของเพื่อน ๆ…มีคนพุ่งเข้าชนกระทั่งประตูพัง คนที่เหลือรีบวิ่งหลบกระสุนเข้าไป ยังมีอีกหลายร้อยคนวิ่งหลบกระสุนขึ้นไปหลบในห้องต่าง ๆ ทั้ง ๔ ชั้นเต็มไปหมด ได้แต่หมอบ อุดหู รอรับกระสุน ที่ระดมยิงเข้ามา…”
๐๗.๕๐ น.
ตำรวจหน่วยคอมมานโดหน่วยปฏิบัติการพเศษ ( นปพ. ) และตำรวจท้องที่ที่ล้อมอยู่หน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้าถึงที่เกิดเหตุ โดยมี พล.ต.ท. ชุมพล โลหะชาละ รอง อตร. พล.ต.ต. เสน่ห์ สิทธิพันธ์ และ พล.ต.ต. ยุทธนา วรรณโกวิทร่วมบัญชาการ
๐๘.๑๐ น.
พล.ต.ต. เสน่ห์ สิทธิพันธ์ บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนพร้อมด้วยอาวุธครบมือบุกเข้า ไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตำรวจตระเวนชายชายแดนมีอาวุธ คือ เครื่องยิงระเบิดต่อสู้รถถัง ปืน เอ็ม. ๗๙ ปืน เอ็ม. ๑๖ เอช.เค ปืนคาร์บิน ตำรวจบางนายมีระเบิดมือห้อยอยุ่เต็มตัวเต็มอัตราศึก
๐๘.๑๘ น.
ตำรวจตระเวนชายแดนเข้าประจำการแทนตำรวจท้องที่และมีกำลังมาเสริมอีกสองคันรถ
๐๘.๒๕ น.
ตำรวจตระเวนชายแดนบุกเข้าไปในหมาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลายจุดพร้อมกับยิงกระสุน วิถีโค้งใส่นักศึกษา มีนักศึกษาถูกยิงและเสียชีวิตทันทีหลายคน
๐๘.๓๐–๑๐.๐๐ น.
นักศึกษาและประชาชนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยตลอดคืนแตกตื่นวิ่งหนี กระสุนที่ตำรวจตระเวน ชายแดนและกลุ่มผุ้ก่อเหตุยิงอย่างไม่ยั้ง ทั้ง ๆ ที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของนักศึกษามีปืนพกเพียงไม่กี่กระบอก
นักศึกษาประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีออกไปทางหน้าประตูมหาวิทยาลัย ในจำนวนนี้มากกว่า ๒๐ คนถูกรุมตี รุมกระทืบ บางคนที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสามหัสแต่ยังไม่สิ้นใจถูกลากออกไปแขวนคอ และถูกผู้คนแสดงท่าทางเยาะเย้ยศพต่าง ๆนานา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนลากเอาศพนักศึกษาที่นอนตายเกลื่อนกลาดข้างหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ออกมาเผากลางถนนราชดำเนินตรงข้ามกับพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยเอายางรถยนต์ทับแล้วราดน้ำมันเบนซิน จุดไฟเผา
๑๐.๓๐ น.
สถานีโทรทัศน์ช่อง ๙ โดยสรรพสิริ วิรยศิริ ถ่ายทอดภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์และท้องสนามหลวงออกอากาศไปทั่วประเทศ
๑๑.๐๐ น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ จับนักศึกษาและผู้ชุมนุมให้นอนคว่ำหน้ากับพื้นสนามฟุตบอล
สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล
สำนักนายกรัฐมนตรีประกาศตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล
๑๑.๓๕ น.
ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาร่วม ๓,๐๐๐ คนขึ้นรถออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนำไปควบคุมตัวไว้ที่โรงเรียนตำรวจนครบาล บางเขน กลุ่มที่มุงดูใช้ก้อนอิฐ หิน ไม้ ขว้างปาผู้ที่อยู่บนรถ
๑๒.๓๐ น.
ลูกเสือชาวบ้านชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เรียกร้องให้รัฐบาลปลดนายสุรินทร์ มาศดิตถ์ นายชวน หลีกภัย นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีและแต่งตั้งนายสมบุญ ศิริธร และนายสมัคร สุนทรเวช ให้อยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไป
๑๘.๐๐ น.
คณะทหารนำทีมโดย พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ เข้ายึดอำนาจ เรียกตัวเองว่า " คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน " เหตุผลในการยึดอำนาจคือ “…คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินได้ประจักษ์แจ้งถึงภัยที่ได้เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ กล่าวคือได้มีกลุ่มบุคคลซึ่งประกอบด้วยนิสิตนักศึกษาบางกลุ่มได้กระทำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโดยมีเจตจำนงทำลาย สถาบันพระมาหกษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนของคอมมิวนิสต์ที่จะเข้ายึดครองปรเทศไทย เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการกวาดล้างคอมมิวนิสต์จึงเกิดการต่อสู้กันจนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก…”
กวาดล้างครั้งใหญ่
หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินนำโดย พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ในเย็นวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ แล้ว คณะปฏิรูปฯได้มีคำสั่งยุบสภา ยกเลิกพรรคการเมือง ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ ห้ามประชาชนออกนอกจากบ้านระหว่างเวลา ๒๔.๐๐ - ๐๕.๐๐ น. และสั่งปิดหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ หลังจากนั้นเพียงสองวัน ก็มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ นำนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เข้าเผ้า ฯเพื่อประกาศแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง และจับนักศึกษาประชาชนจำนวน ๓,๐๙๔ คน ไปฝากขังที่โรงเรียน ตำรวจนครบาล บางเขน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างละเอียดคืนวันที่ ๗ ต.ค.
พล.ต.ท. ชุมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ ได้ออกโทรทัศน์ช่อง ๕ แถลงผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จากการเข้าตรวจค้นภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ได้ค้นพบอุโมงค์ลับสองแห่ง คืออุโมงค์ใต้ดิน ที่คณะบัญชีซึ่งมีทางออกได้สามทาง คือ ไปออกที่บริเวณท่าพระจันทร์ ไปออกบริเวณท่าน้ำหลังมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ที่ตึกคณะบัญชียัง พบห้องรับอากาศมีห้องน้ำในตัวอยู่บนเพดาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าคงเป็นห้องประชุมของแกนนำนักศึกษาที่ก่อความวุ่นวาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบอาวุธ สงครามร้ายแรงจำนวนมาก เช่น พบกระสุนปืน เอ็ม.๗๙ ๑ นัด ระเบิด เอ็ม.เค. ๒ จำนวน ๒ ลูก เอ็ม. ๒๖ จำนวน ๒ ลูก พลุยิงสัญญาณ ๓ ชุด พลุสะดุด ๑ ชุด เครื่องจุดระเบิดแมกนีโต ๑ ชุด อาวุธพกรีวอลเวอร์ ๒ กระบอก ปืนลูกซอง ๑ กระบอก ฯลฯ
คำแถลงของ พล.ต.ท. ชุมพล โลหะชาละ ได้รับการตอกย้ำอย่างหนักแน่นอีกครั้งจากปากของ พล.ต. เสน่ห์ สิทธิพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ยืนยันการพบอุโมงค์ในธรรมศาสตร์ ( แต่ พล.ต.ต. เสน่ห์กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธรณชนได้ว่าอุโมงค์นั้นอยู่ที่จุดไหนของธรรมศาสตร์ )
นอกจากนี้ในวันที่ ๙ ตุลา พล.ต.ท. ชุมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ ยังกล่าวว่า ผลการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว ทางตำรวจยืนยัน ในเวลาต่อมาว่า มีชาวญวนแปลกปลอมอยู่แปดคน เป็นชายห้าคน หญิงสามคน
นอกจากนี้ในวันที่ ๙ ตุลา พล.ต.ท. ชุมพล โลหะชาละ รองอธิบดีกรมตำรวจ ยังกล่าวว่า ผลการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว ทางตำรวจยืนยัน ในเวลาต่อมาว่า มีชาวญวนแปลกปลอมอยู่แปดคน เป็นชายห้าคน หญิงสามคน
การกวาดล้างครั้งใหญ่ไม่เพียงเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น ทว่าได้ลุกลามขยายตัวออกไปทั่วประเทศ หนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมถูกเก็บจากแผง ผู้ที่มีความคิดขัดแย้งกับรัฐบาลก็ถูกข้อหาเป็นภัยสังคมและคอมมิวนิสต์ สภาพสังคมในช่วงดังกล่าวได้ผลักดันให้นักศึกษาปัญญาชนจำนวนมากที่มีความคิดขัดแย้งกับรัฐบาลต้องหนีเข้าป่าเป็น แนวร่วมของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
นักวิชาการคนหนึ่งกล่าวถึงทางเลือกของคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลหลัง หลบหนีไปต่างประเทศ
ในส่วนผู้ต้องหาคดี ๖ ตุลา นั้น แม้จำนวนผู้ถูกจับกุมจะมากถึง ๓,๐๙๔ คน แต่ส่วนใหญ่ก็ได้รับการปล่อยตัวไปหมด คงเหลือผู้ต้องหา ๑๘ คนเท่านั้นที่ถูกส่งฟ้องศาล โดยผู้ต้องหาทั้ง ๑๘ คนต้องขึ้นศาลทหารเนื่องจากถูกแจ้งข้อหา ฉกรรจ์เพิ่มว่ามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ซึ่งใครก็ตามที่ถูกฟ้องข้อหาดังกล่าว ต้องขึ้นศาลทหารแทนที่จะเป็นศาลพลเรือนเหมือนคดีความทั่วไป
ในเวลาต่อมา นายบุญชาติ เสถียรธรรมมณี ก็ตกเป็นผู้ต้องหาคนที่ ๑๙ เขาเป็นคนเดียวในบรรดานักโทษคดี ๖ ตุลาที่ไม่ถูกแจ้งข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้นายบุญชาติได้ขึ้นศาลพลเรือน
ในส่วนผู้ต้องหาคดี ๖ ตุลา นั้น แม้จำนวนผู้ถูกจับกุมจะมากถึง ๓,๐๙๔ คน แต่ส่วนใหญ่ก็ได้รับการปล่อยตัวไปหมด คงเหลือผู้ต้องหา ๑๘ คนเท่านั้นที่ถูกส่งฟ้องศาล โดยผู้ต้องหาทั้ง ๑๘ คนต้องขึ้นศาลทหารเนื่องจากถูกแจ้งข้อหา ฉกรรจ์เพิ่มว่ามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ซึ่งใครก็ตามที่ถูกฟ้องข้อหาดังกล่าว ต้องขึ้นศาลทหารแทนที่จะเป็นศาลพลเรือนเหมือนคดีความทั่วไป
ในเวลาต่อมา นายบุญชาติ เสถียรธรรมมณี ก็ตกเป็นผู้ต้องหาคนที่ ๑๙ เขาเป็นคนเดียวในบรรดานักโทษคดี ๖ ตุลาที่ไม่ถูกแจ้งข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้นายบุญชาติได้ขึ้นศาลพลเรือน
คดีของ ๑๙ ผู้ต้องหาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ คดี ๖ ตุลา ” เริ่มต้นพิจารณาคดีเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๒๐ และสิ้นสุดคดีเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๒๑ เนื่องจากรัฐบาลของพล.อ.เกียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ผู้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ ๑๕ ต่อจากนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผู้เกี่ยวข้องเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๑๙ ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่กระทำและฝ่ายที่ถูกกระทำ รวมเวลาจำเลยคดี ๖ ตุลา ถูกจับกุมคุมขังนาน ๗๑๐ วัน
บทสรุป
- วันล้อมปราบประชาชน
- วันฆ่านกพิราบ
ชื่อเรียก
หกตุลามหาโหด
เวลาที่เกิดเหตุการณ์
วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
ชนวนของเหตุการณ์
จอมพล ถนอม กิตติขจร เดินทางกลับมาประเทศไทย หลังจากที่หลบหนีออกนอกประเทศเมื่อ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๖
เหตุการณ์
ก่อนหน้าเหตุการณ์ ๖ ตุลา มีความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคชาติไทย ส่วนขบวนการนักศึกษาและประชาธิปไตยก็กำลังเบ่งบานและเข้มข้น โดยมีขบวนการมวลชนฝ่ายขวา ใช้ความรุนแรงก่อกวนและสังหารผู้นำนักศึกษาและกรรมกรชาวนา
จอมพลถนอมบวชเณรเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๙ โดยอ้างว่าจะเข้ามาดูใจบิดา ( ก่อนหน้านี้จอมพลประภาสเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม แต่ถูกต่อต้านจนต้องเดินทางออกนอกประเทศไปอีก )
นักศึกษาได้รวมตัวกันประท้วงการกลับเข้ามา ของจอมพลถนอม โดยที่รัฐบาลก็เห็นชอบ “ นักศึกษาที่จะทำการชุมนุมก็มีสิทธิทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ” ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๑๙
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การประท้วงขับไล่จอมพลถนอมเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๑๙ ขณะเดียวกันได้มีเหตุการณ์ฆ่าแขวนคอกรรมกรที่ร่วมขับไล่จอมพลถนอมที่นครปฐม นักศึกษาได้จัดแสดง ละครสะท้อนเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม
เวลาเช้าของวันที่ ๕ ตุลาคม หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ และ ดาวสยาม ได้ตีพิมพ์ภาพละครแขวนคอ ของนักศึกษา โดยระบุว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ( เนื่องจากบุคคลผู้ถูกแขวนคอในภาพ มีหน้าละม้ายองค์รัชทายาท ) มีการชุมนุมกลุ่มพลังฝ่ายขวาทั่วกรุงเทพ ฯ และ พ.อ.อุทาร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา แห่งชมรมวิทยุเสรี ได้กระจายเสียงปลุกเร้ากลุ่มพลังและนัดหมายเวลาที่จะเคลื่อนกำลัง
เช้าวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ กำลังตำรวจและประชาชนในสังกัดกลุ่มพลังฝ่ายขวา ( เช่น กลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ) ปิดล้อมและบุกเข้าสลายม็อบในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยใช้วิธีการอันโหดเหี้ยม ผิดมนุษย์ ภาพข่าวการแขวนคอนักศึกษากับต้นมะขามที่สนามหลวง ตอกอก เผาทั้งเป็น และการระดมยิง นักศึกษาที่ไม่มีอาวุธนอกจากปืนพกของหน่วยรักษาความปลอดภัยไม่กี่กระบอกได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก นักศึกษาและผู้นำกรรมการจำนวนมากหลบหนีการปราบปราม “ เข้าป่า ” เพื่อรวมตัวกับพรรค คอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ผลจากเหตุการณ์
ประมาณว่ามีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน นักศึกษา ๓,๐๘๔ คน ถูกจับกุม ผู้นำนักศึกษา ๑๙ คนถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร
รัฐบาลของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ถูกปฏิวัติและแทนที่ด้วยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน แต่งตั้งรัฐบาล ที่มี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี
ความสำคัญของเหตุการณ์
คณะปฏิรูป ฯ นำประเทศไทยกลับเข้าสู่ระบอบเผด็จการทหารอีกครั้ง ความโหดเหี้ยมของเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อด้านความรู้สึกของผู้คนในสังคม ด้านเศรษฐกิจและด้านการเมืองไทย ทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก
*******************************************
Real footage video
Video 1 Upload by ธเนศ คืนไทยให้เป็นธรรม ( Thaned kenthaihaipentum )
Channel : ธเนศ คืนไทยให้เป็นธรรม ( Thaned kenthaihaipentum )
*****************************************************************
Reference : อ้างอิง
- รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย / นิตยสารสารคดี
- http://www.Geocities.com/Thaifreeman
- https://en.wikipedia.org/wiki/Thammasat_University_massacre
- Youtube
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น